Home » , , , , » จับแล้ว !! หนุ่มซิ่งเก๋งชนจักรยานตาย2ศพ ตร.จับได้ที่ชุมพร สารภาพพูดแบบนี้ออกมา แม่เด็กถึงกับอยากฆ่า!?

จับแล้ว !! หนุ่มซิ่งเก๋งชนจักรยานตาย2ศพ ตร.จับได้ที่ชุมพร สารภาพพูดแบบนี้ออกมา แม่เด็กถึงกับอยากฆ่า!?

Written By davite on Friday, May 6, 2016 | 3:54 AM

loading...
กรณีเกิดเหตุรถเก๋งทะเบียน ฎม 3891 กรุงเทพมหานคร พุ่งชนรถจักรยาน บนถนนศรีจันทร์ ม. 21 ต.บ้านเป็ด อ.เมือง จ.ขอนแก่น เมื่อวันที่ 28 เม.ย. ที่ผ่านมา เป็นเหตุให้คนขี่รถจักรยานสองล้อคือ นายชุมพล เกิดกล้า อายุ 52 ปี และด.ญ.ณัฐวดี ปั้นสำรอง วัย 2 ขวบ ที่ซ้อนท้ายรถจักรยานสามล้อพ่วงเสียชีวิตคาที่ ส่วนยายคือ น.ส.จิราอร กล่ำนาค อายุ 56 ปี คนขี่จักรยานสามล้อพ่วงได้รับบาดเจ็บสาหัส และเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลขอนแก่น ส่วนคนขับรถยนต์เก๋งที่ก่อเหตุได้วิ่งหลบหนีเข้าป่าข้างทางไปในสภาพคล้ายคนเมา โดยมีภาพจากกล้องวงจรปิดหน้าร้านบันทึกภาพเอาไว้ได้
ความคืบหน้าเมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 6 พ.ค.2559 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตำรวจสภ.เมืองขอนแก่น ร่วมกันแถลงผลการจับกุมตัว นายอภิชาติ หรือนิด อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 171 ม.11 ต.ศิลา อ.เมือง จ.ขอนแก่น ผู้ต้องหาตามหมายจับ ที่หลบหนีความผิดคดีขับรถชนคนตาย 2 ศพและบาดเจ็บ 1 ราย ไว้ดำเนินคดีขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้เฉี่ยวชนรถอื่นทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ได้รับอันตรายสาหัสและทรัพย์เสียหาย, ไม่หยุดรถและให้ความช่วยเหลือตามสมควร และแจ้งเหตุต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ที่อยู่ใกล้เคียงทราบทันที โดยมีกลุ่มญาติคนเจ็บและคนตาย คือนายชนะ และ น.ส.เบญจมาศ สองสามีภรรยาอายุ 35 ปีและ 28 ปี ซึ่งเป็นบิดาและมารดาของ ด.ญ.ณัฐวดี วัย 2 ขวบที่เสียชีวิต และ น.ส.ชุติมา อายุ 31 ปี ซึ่งเป็นลูกสาวของ น.ส.จิราอร กล่ำนาค อายุ 56 ปี ที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสและเป็นยายของด.ญ.ณัฐวดี โดยตำรวจได้จัดแถลงข่าวที่บริเวณหน้าห้อง ศปก. โดยมีกลุ่มญาติคนเจ็บและคนตายจำนวนมากมาดูการแถลงข่าว โดยมีตำรวจในเครื่องแบบชุดป้องกันปราบปราม สภ.เมืองขอนแก่นจำนวนหลายนายมายืนกั้นกลางไว้เพื่อป้องกันเหตุญาติไม่พอใจเข้าทำร้ายผู้ต้องหา ตลอดเวลาที่มีการแถลงข่าว น.ส.เบญจมาศ มารดา ด.ญ.ณัฐวดีวัย 2 ขวบ และน.ส.ชุติมา ลูกสาวของ น.ส.จิราอร วัย 56 ปี ต่างกลั้นน้ำตาไว้ไม่ได้ด้วยความเศร้าโศกเสียใจต่อจากไปแบบไม่มีวันกลับของลูกสาววัย 2 ขวบ และแม่ที่ยังเจ็บหนักและยังไม่รู้สึกตัว ฟื้นขึ้นมา ซึ่งรักษาตัวอยู่โรงพยาบาลขอนแก่น ความคืบหน้าเมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 6 พ.ค.2559 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตำรวจสภ.เมืองขอนแก่น ร่วมกันแถลงผลการจับกุมตัว นายอภิชาติ หรือนิด อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 171 ม.11 ต.ศิลา อ.เมือง จ.ขอนแก่น ผู้ต้องหาตามหมายจับ ที่หลบหนีความผิดคดีขับรถชนคนตาย 2 ศพและบาดเจ็บ 1 ราย ไว้ดำเนินคดีขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้เฉี่ยวชนรถอื่นทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ได้รับอันตรายสาหัสและทรัพย์เสียหาย, ไม่หยุดรถและให้ความช่วยเหลือตามสมควร และแจ้งเหตุต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ที่อยู่ใกล้เคียงทราบทันที โดยมีกลุ่มญาติคนเจ็บและคนตาย คือนายชนะ และ น.ส.เบญจมาศ สองสามีภรรยาอายุ 35 ปีและ 28 ปี ซึ่งเป็นบิดาและมารดาของ ด.ญ.ณัฐวดี วัย 2 ขวบที่เสียชีวิต และ น.ส.ชุติมา อายุ 31 ปี ซึ่งเป็นลูกสาวของ น.ส.จิราอร กล่ำนาค อายุ 56 ปี ที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสและเป็นยายของด.ญ.ณัฐวดี โดยตำรวจได้จัดแถลงข่าวที่บริเวณหน้าห้อง ศปก. โดยมีกลุ่มญาติคนเจ็บและคนตายจำนวนมากมาดูการแถลงข่าว โดยมีตำรวจในเครื่องแบบชุดป้องกันปราบปราม สภ.เมืองขอนแก่นจำนวนหลายนายมายืนกั้นกลางไว้เพื่อป้องกันเหตุญาติไม่พอใจเข้าทำร้ายผู้ต้องหา ตลอดเวลาที่มีการแถลงข่าว น.ส.เบญจมาศ มารดา ด.ญ.ณัฐวดีวัย 2 ขวบ และน.ส.ชุติมา ลูกสาวของ น.ส.จิราอร วัย 56 ปี ต่างกลั้นน้ำตาไว้ไม่ได้ด้วยความเศร้าโศกเสียใจต่อจากไปแบบไม่มีวันกลับของลูกสาววัย 2 ขวบ และแม่ที่ยังเจ็บหนักและยังไม่รู้สึกตัว ฟื้นขึ้นมา ซึ่งรักษาตัวอยู่โรงพยาบาลขอนแก่น จากการสอบสวนนายอภิชาติ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ขณะเกิดเหตุตนหลับในไม่รู้สึกตัว เนื่องจากก่อนหน้านี้ตั้งแต่คืนก่อนเกิดเหตุตนได้เสพยาบ้าจนเมาไปแล้วรอบนึง กระทั่งเช้าก่อนขึ้นขับรถยนต์เก๋งคันก่อเหตุก็ดื่มเบียร์กระป๋องอีกจนเมา โดยขับรถตามเส้นทางสายศรีจันทร์ไปบ้านโคกฟันโปงมาด้วยความเร็วสูงในระดับความเร็ว 120-140 กม./ชั่วโมงในสภาพเมาแล้วขับ ไม่ได้สติ กระทั่งเกิดเหตุขึ้นดังกล่าวโดยได้ยกมือไหว้บอกตนสำนึกผิดแล้ว “สำนึกผิดครับๆๆ” ยอมรับว่าในวันเกิดเหตุตนได้วิ่งหนีลงทุ่งนาหนีไปพักอยู่บ้านเพื่อนที่อยู่แถวบ้านเป็ดก่อนรอจังหวะหลบหนีออกนอกพื้นที่ จ.ขอนแก่น กระทั่งระหว่างที่หลบหนีเข้าเขต จ.ชุมพร เมื่อเช้าตรู่วันที่ 5 พ.ค.เวลา 03.15 น.ขณะนั่งอยู่บนรถโดยสาร สายกรุงเทพ-ระนอง ขาล่อง ได้ถูกตำรวจ สภ.เมืองชุมพร เข้าสกัดจับตัวไว้ได้บนรถโดยสารสายดังกล่าว ที่บริเวณจุดตรวจปฐมพร ถนนเพชรเกษม ม.9 ต.วังไผ่ อ.เมือง จ.ชุมพร ไว้ได้ในที่สุด ส่วนสติ๊กเกอร์ “กรมการปกครอง” ที่ติดหน้ารถ ผู้ต้องหาบอกตนไม่รู้เรื่อง น่าจะเป็นคนที่ใช้รถมาก่อนเอามาติด คงติดเพื่อเสริมบารมีคนขับ และสติ๊กเกอร์หาซื้อได้ง่าย ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ชี้แจงว่า ผู้ต้องหาสามารถยื่นเรื่องขอประกันตัวได้ตามระเบียบ หลังจบสิ้นการแถลงข่าวขณะที่ตำรวจได้นำตัวนายอภิชาต เพื่อคุมตัวไปไว้บนห้องขังโรงพักที่อาคารด้านหน้า สภ.เมืองขอนแก่น เป็นจังหวะที่ น.ส.เบญจมาศ มารดา ด.ญ. พร้อมกลุ่มญาติได้กรูเข้าไปหานายอภิชาติ ผู้ต้องหาพร้อมกับตะโกนเสียงดังด่าผู้ต้องหาว่า “ไอ้เลวๆๆ ฆ่าคนตายๆๆ แล้วยังจะประกันตัวอีก” ทางตำรวจจึงรีบนำตัวผู้ต้องหาเดินขึ้นอาคารไปอย่างรวดเร็ว เพื่อไม่ให้เกิดเหตุรุมประชาฑันฑ์ ขณะที่ น.ส.เบญมาศได้ตะโกนไล่หลังผู้ต้องหาว่า “ฆ่าคนตายไม่สำนึก ไอ้เลวๆ” น.ส.เบญมาศ ที่เอาแต่ร้องไห้ โดยนายชนะ สามีได้สวมกอดภรรยาไว้และตอบแทนว่า “พวกเราต้องสูญเสียบุตรสาวไปอย่างไม่มีวันกลับ มันชดใช้ไม่ได้เลย ตกใจมาก พยายามบอกกับตัวเองว่าไม่ใช่ ลูกยังไม่ตาย ทุกวันนี้ยังคิดว่ามันไม่ใช่” ขณะที่ น.ส.ชุติมา กล่าวด้วยว่า “พวกตนไม่พอใจที่ตำรวจอนุญาตให้ประกันตัวผู้ต้องหา จะขอคัดค้านการประกันตัวอย่างถึงที่สุด” และบอกว่า “แม่หนูยังมีชีวิตอยู่ แม่หนูฟื้นมาก็ไม่รู้ว่าแม่หนูจะเป็นยังไง จะมีชีวิตต่อไปยังไง” It is not hard to comprehend why there happens to be a pattern that is underlining characteristic wonder without cosmetics. Bunches of people appear to be to be getting tired of cosmetics. A great deal of men would prefer not to utilize it themselves, numerous men can't remain to see young ladies wearing cosmetics, and a few ladies are tired of wearing it. This must not be astounding, given the 15 things young ladies HATE about cosmetics! For on thing, it is hard to get restorative effectively even and symmetrical. One eye will turn out not the same as the other eye dependably, which is liable to be extreme on the off chance that you are a fussbudget. For another plain thing, cosmetics is greatly tedious to apply and uproot. It seems to take unlimited wipes for the restorative to fall off completely. Cosmetics is made to keep going an impressively long time for the duration of the day, so obviously it will be a wreck to wipe out before the day's over. A few ladies will burn through two hours each morning hours applying cosmetics, and taking it off before the day's over will seem, for example, a waste for various them. Cosmetics could be out and out difficult to utilize, eye make-up particularly. Mascara brushes are delivered from sharp and unforgiving abounds. Still, to have the capacity to work their enchantment with anybody's eyelashes, they must be close to the awfully delicate and touchy skin of somebody's eyelids and the significantly more touchy eyeball. Ladies will in all probability hurt or harm their eye or eyelids all the time or possibly a consistently premise in view of mascara brushes. Eye make-up for the most part might be the kind of things that tends to bring about torment. It truly is high in simply the kind of chemicals that will disturb somebody's eyes, truth be told it is being connected in quick nearness to somebody's eyes. This is an exact formula for fiasco. Ladies will wear layers and layers of eye corrective typically, raising each of the dangers along the way. Make-up will upgrade highlights an over the top measure of. There exists a scarcely discernible difference between a look that is striking and a look that is only fake and flashy. It is troublesome for people to have the capacity to tow that line every single day. In any case, individuals who wear restorative consistently are as yet must tow that line every last day, which is reason enough to permit them to discover the issue extremely disappointing. Make-up is delicate and powerless to slippage even. Individuals are putting it on in the can and their hands will be wet since they are juggling large portions of these small little holders that are created from dangerous plastic. The genuine reality that a great deal of people are going to wrap up dropping these little holders and demolishing the stock itself continually shouldn't shock anybody. Individuals presumably squander a complete parcel of cash on the corrective that they drop along these lines, yet it is hard to keep that kind of thing. Cosmetics isn't all pointless fooling around. ที่มา:siamupdate
loading...

0 comments:

Post a Comment